ใครคืออุบาสก ?
ในปกิณณกะนั้น ใครคืออุบาสก คือคฤหัสถ์คนใดคนหนึ่งที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง. สมจริงดังที่กล่าวไว้ว่า ดูก่อน มหานาม เพราะเหตุที่อุบาสกเป็นผู้ถึง
พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
ถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล ชื่อว่าอุบาสก.
เพราะเหตุไรจึงเรียกว่า อุบาสก ?
เพราะนั่งใกล้พระรัตนตรัย.
จริงอยู่ อุบาสกนั้น ชื่อว่าอุบาสก ด้วยอรรถว่า นั่งใกล้พระพุทธเจ้า. นั่งใกล้พระธรรมพระสงฆ์ก็เป็นอุบาสกเหมือนกัน.
อะไรคือศีลของอุบาสกนั้น ?
เวรมณี ๕ ข้อ เป็นศีลของอุบาสก. เหมือนอย่างที่กล่าวไว้ว่า
ดูก่อน มหานาม เพราะเหตุที่อุบาสกเป็นผู้งดเว้น
จากปาณาติบาต
จากอทินนาทาน
จากกาเมสุมิจฉาจาร
จากมุสาวาท
จากน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ดูก่อน มหานาม ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล อุบาสกชื่อว่าเป็นผู้มีศีล
อาชีพอย่างไร ?
คือ ละการค้าขายผิดศีลธรรม ๕ อย่าง เลี้ยงชีพโดยธรรมสม่ำเสมอ.
สมจริงดังที่กล่าวไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ อย่างเหล่านี้ อุบาสกไม่ควรทำ ๕ อย่างอะไรบ้าง ?
การค้าขายศัสตรา
การค้าขายสัตว์
การค้าขายเนื้อสัตว์
การค้าขายน้ำเมา
การค้าขายยาพิษ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการค้าขาย ๕ อย่างเหล่านี้แล อุบาสกไม่ควรทำ ดังนี้.
วิบัติอย่างไร ?
คือ ศีลวิบัติและอาชีววิบัติของอุบาสกนั้นแหละ เป็นวิบัติของอุบาสก.
อีกอย่างหนึ่ง อุบาสกนี้เป็นจัณฑาล เป็นมลทิน และเป็นผู้ที่น่ารังเกียจด้วยกิริยาใด กิริยาแม้นั้น พึงทราบว่าเป็นวิบัติของอุบาสก.
ก็วิบัติเหล่านั้น โดยอรรถได้แก่ธรรม ๕ อย่างมีความเป็นผู้ไม่มีศรัทธาเป็นต้น. เหมือนอย่างที่ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ อย่าง ย่อมเป็นอุบาสกจัณฑาล เป็นอุบาสกมลทิน และเป็นอุบาสกที่น่ารังเกียจ ๕ อย่างอะไรบ้าง ?
คือเป็นผู้ไม่มีศรัทธา
เป็นคนทุศีล
เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว
เชื่อมงคลไม่เชื่อกรรม
และแสวงหาทักขิไณยบุคคลนอกพระพุทธศาสนา ทำบุญในทักขิไณยบุคคลเหล่านั้น ดังนี้.
สมบัติอย่างไร ?
ศีลสมบัติและอาชีวสมบัติของอุบาสกนั้นนั่นแหละ เป็นสมบัติของอุบาสก ได้แก่ธรรม ๕ ประการมีศรัทธาเป็นต้น ที่กระทำความเป็นอุบาสกรัตนะเป็นต้น. เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นอุบาสกรัตนะ เป็นอุบาสกปทุม และเป็นอุบาสกบุณฑริก ๕ ประการอะไรบ้าง
คือเป็นผู้มีศรัทธา
เป็นผู้มีศีล
ไม่เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว
เชื่อกรรมไม่เชื่อมงคล
ไม่แสวงหาทักขิไณยบุคคลนอกพระพุทธศาสนา และทำบุญในพระศาสนานี้ ดังนี้.
สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
อุบาสกอุบาสิกที่เป็นตราชูเป็นประมาณ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้มีศรัทธา เมื่อปรารถนาโดยชอบ พึงปรารถนาอย่างนี้ว่า ขอเราจงเป็นเช่นจิตตคฤหบดีและหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีเถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตตคฤหบดีและหัตถกอุบาสกชาวเมืองอาฬวีนี้เป็นตราชูเป็นประมาณแห่งอุบาสกทั้งหลายผู้เป็นสาวกของเรา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสิกาผู้มีศรัทธาเมื่อปรารถนาโดยชอบ พึงปรารถนาอย่างนี้ว่า ขอเราจงเป็น
เช่นนางขุชชุตตราอุบาสิกา และนางเวฬุกัณฏกีนันทมารดาเถิด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นางขุชชุตตราอุบาสิกา และนางเวฬุกัณฏกีนันทมารดานี้เป็นตราชูเป็นประมาณของอุบาสิกาทั้งหลายผู้สาวิกาของเรา.
จบอายาจนสูตรที่ ๖
๕. จัณฑาลสูตร
ว่าด้วยธรรมสำหรับอุบาสกดีและอุบาสกชั่ว
[๑๗๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ
ย่อมเป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน ? คือ
อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑
เป็นผู้ทุศีล ๑
เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคลไม่เชื่อกรรม ๑
แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑
ทำการสนับสนุนในศาสนานั้น ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นอุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน ?
คือ อุบาสกย่อมเป็นผู้มีศรัทธา ๑
เป็นผู้มีศีล ๑ เป็นผู้ไม่ถือมงคลตื่นข่าว
เชื่อกรรมไม่เชื่อมงคล ๑
ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนานี้ ๑
ทำการสนับสนุนในศาสนานี้ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นอุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก.
จบจัณฑาลสูตรที่ ๕
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ สมัยนั้น อุบาสกคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ เป็นคนมีศรัทธาเลื่อมใสตั้งอยู่ในศีล ๕ สมาทานอุโบสถศีลในวันอุโบสถ เวลาก่อนอาหาร ถวายทานแด่ภิกษุทั้งหลาย ตามสมควรแก่สมบัติของตน แล้วจึงบริโภคเอง นุ่งห่มผ้าสะอาด เวลาหลังอาหาร โดยมากให้คนถือน้ำอัฏฐบานไปวิหาร มอบถวายแด่ภิกษุสงฆ์แล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฟังธรรม เขาสั่งสมสุจริตมากทั้งด้านทานและด้านศีล โดยเคารพด้วยอาการอย่างนี้ จุติ จากภพนี้ เกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ช้างทิพย์ใหญ่เผือกปลอด ได้ปรากฏด้วยบุญญานุภาพของเขา เขาขี่ช้างนั้นไปเล่นอุทยานเสมอ ๆ ด้วยบริวารเป็นอันมาก ด้วยทิพยานุภาพยิ่งใหญ่.
ปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททกนิกาย วิมานวัตถุ
0 ความคิดเห็น: